Fnatic สุดยอดทีม DOTA Summit 8 regional qualifier ระดับภูมิภาค

ได้เห็นกันไปแล้วกับมาดใหม่ของทีม Fnatic ในรายการการแข่งขันรอบคัดเลือกระดับภูมิภาคของ DOTA Summit 8 ที่เป็นการแข่งขันกันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากการแข่งขันอันยาวนานถึง 4 วัน Fnatic และ Mineski ได้แสดงฝีมือให้เห็นกันอย่างดุเดือดและท้ายที่สุดชัยชนะก็ตกเป็นของทีม Fnatic ที่ทำได้ดีกว่าด้วยสกอร์ 3-2

ถือเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่ของ Fnatic ก่อนหน้านี้ จะว่ากันก็ตั้งแต่มีการเริ่มระบบคะแนน Pro Circuit พวกเขาก็ดูแปลกไปจากที่เราเคยรู้จัก พวกเขาเคยเป็นหนึ่งในสุดยอดทีมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถก้าวไปสู่รายการ international ได้ง่ายๆด้วยความสามารถของพวกเขา อย่างไรก็ตามความคิดเหล่านั้นก็ต้องตกไปหลังจากที่พวกเขาได้อันดับสุดท้ายใน 2 ทัวร์นาเม้นท์ที่ผ่านมา

เป็นที่แน่นอนว่าพวกเขาต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่ง จนเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ก่อนการแข่งขันรอบคัดเลือกระดับภูมิภาครายการ DOTA Summit 8  จะเริ่มขึ้น Fnatic  ได้ตัดสินใจที่จะนำเอา Abed “Abed” Yusop และ Adam Ewann “Adam” Shah bin Akhtar Hussein มาร่วมทีมครั้งนี้

Abed อดีตผู้เล่นจากทีม Digital Chaos ที่ไม่มีสังกัดตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งผู้เล่นสัญชาติฟิลิปินส์คนนี้ก็ได้โชว์ผลงานที่ดีเยี่ยมของเขาระหว่างที่อยู่กับทีม Execration ตลอดปี 2016 เขาถูกนำตัวเข้ามาแทนที่ Steve “Xcalibur” Ye ซึ่งดูเหมือนจะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับเกมการเล่นของ Fnatic ได้  สิ่งที่ยืนยันคำพูดนี้ก็คือข้อเท็จจริงที่ว่า Fnatic สามารถเอาชนะได้เพียง 3 ใน 10 เกมเท่านั้น ก่อนที่ Abed จะเข้าร่วมทีม อย่างไรก็ตามทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหลังจากที่เขาลงแข่งขัน นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงนี้แล้ว Fnatic ยังได้รับ Adam ที่เคยเป็นที่รู้จักกันในชื่อเดิมว่า 343 มาเป็นโค้ชของทีมคนใหม่อีกด้วย

การเข้ามาแข่งขันในรอบคัดเลือกระดับภูมิภาคของรายการ DOTA Summit 8 ทีม Fnatic  ก็หวังว่าจะต้องล้ม Mineski ให้ได้ เนื่องจาก Mineski  คือทีมที่ทำคะแนน Pro Circuit ได้ดีที่สุดจากการชนะถึง 6 ใน 7 เกมส์ อย่างไรก็ตามเริ่มต้นกันที่เกมส์แรก Fnatic โชว์ความสเถียรภาพของพวกเขาได้ดี  แม้ว่า Abed จะเป็นสมาชิกไม่ถึง 24 ชั่วโมง แต่การปรากฏตัวของเขาเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับผู้เล่นตัวจริงที่พ่ายแพ้ตลอดทั้งรอบคัดเลือก

ซึ่งทีมแรกที่พ่ายแพ้เกมนี้คือ Entity Gaming ซึ่งเป็นทีมที่ขนะ Fnatic มา 1 เกม ถัดไปคือ Execration และ TNC Pro Team ซึ่งทั้งคู่ไม่สามารถชนะพวกเขาได้ใน 1 เกม ในท้ายที่สุดก็คือสิ่งที่เรียกว่า “คลาสสิก” ที่แท้จริงในรอบชิงชนะเลิศ Fnatic อาจได้พบกับทีม Mineski ทีมที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นอกเหนือจากพวกเขา

เปิดตัวแมตซ์นี้ด้วยความโชคร้ายของ Fnatic ที่พวกเขาทำได้ค่อนข้างแย่ใน 2 แมพหลักจากเล่นไปได้เพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง สถานการณ์ค่อนข้างน่าเป็นห่วงและดูเหมือนว่า EternalEnvy และ co. จะไม่สามารถต่อกลอนกับ Mineski ได้ อย่างรก็ตาม EternalEnvy จัดการกับมันได้เมื่อตอนที่ทีมต้องการมากที่สุด จนถึงเกมที่ 3 ก็เป็นเวลาที่สุดยอดของเขาที่หยุด Mineski ไว้ได้ด้วย การหลบหนีของเขาซึ่งก็เป็นการต่อชีวิตให้กับทีม Fnatic อีกครั้งทำให้พวกเขายังสามารถรักษาตำแหน่ง best of five series ไว้ได้

ขยับไปเกมที่ 4 ที่ได้ชัยชนะมาง่ายๆสำหรับ Fnatic ซึ่งเอาชนะทีม Mineski มาอย่างมีเล่ห์เลี่ยม พลัง Storm Spirit ของ Nana สามารถตอบโต้กับกลยุทธ์การผลักดันอย่างก้าวร้าวของ Abed ได้  ในตอนท้ายเกมทั้งหมดตกไปถึงเกมที่ 5 ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายของซีรี่ส์นี้  ซึ่งก่อนเริ่มต้นเกมนี้ 2 ชั่วโมงดูเหมือนว่า Mineski จะสามารถเอาชนะเกมนี้ได้อย่างใสๆด้วยสกอร์ 3-0 อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า Fnatic ต้องดิ้นรนมากในช่วงนี้ พวกเขาเคยแข็งแกร่งมากพอที่จะแสดงความสามารถเมื่อถึงเวลาที่ต้องการ ในเกมที่ 5 เราได้เห็น Abed ใน Tinker อีกครั้ง ซึ่งถูกผลักดันจากผลงานที่ยอดเยี่ยมของ Ohaiyo ใน Omniknight ของเขา Fnatic ใช้เวลา 50 นาทีเพื่อรักษาชัยชนะในเกมนี้และชัยชนะโดยรวมในรอบคัดเลือกนี้

เราสามารถสรุปได้ว่าการที่ Fnatic ได้ Abed มาร่วมทีมนั้นเป็นการก้าวกระโดนของความสำเร็จที่ดีสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่แค่การนำความมั่นใจกลับคืนมาให้พวกเขาอีกครั้งเท่านั้น แต่เขาสามารถนำทีมคว้าชัยชนะจาก Mineski ได้สำเร็จ นำเอาความศัทรากลับมาสู่ทีมผู้เล่นอีกครั้ง บทบาทสำคัญในความสำเร็จนี้คือการเล่นใต้การควบคุมของโค้ช Adam  เช่นกันที่สามารถเข้ากันกับสมาชิกทุกคนได้ดี  DOTA Summit 8 จะเป็นงาน Pro Circuit ครั้งแรกที่ Fnatic ได้เข้าร่วมอีกด้วย