พรีวิว รายการ Esports Championship Series Season 3

สำหรับรายการ Esports Championship Series (ECS) ที่มาถึงซีซั่นที่ 3 พร้อมสี่ทีมที่ดีที่สุดจากแต่ละภูมิภาคเข้าแข่งขันชิงเงินรางวัลกองกลางมูลค่ากว่า 22 ล้านบาท ซึ่งไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่าเราจะได้เห็นฝีไม้ลายมือของทีมระดับโลก CS:GO ที่กรุงลอนดอน แน่นอน

ตัวแทน 4 ทีมจากแต่ละภูมิภาคจะเข้าร่วมการแข่งขันที่กรุงลอนดอน และจะถูกแบ่งกลุ่มเป็น 2 กลุ่มที่มี จากรายชื่อทีมทั้งหมดด้านล่างมีการจัดการให้ทีมเต็ง ในแต่ละกลุ่มมาเจอกับทีมรอง ในแมตช์เปิดรายการ รอบแข่งขันแบบกลุ่มจะเล่นกันในรูปแบบเดียวกันกับรายการ DreamHack Jonkoping ที่มีรูปแบบการแข่งขันแบบ double-elimination ในรอบเปิดตัว และผู้ชนะในแมตซ์นั้นในวันที่ 1 และวันที่ 2 จะเป็นการเจอกันระหว่าง 2 ทีมที่แพ้ และเป็นการแข่งขันรอบตัดสินที่จะแข่งแบบ best-of-three และวันสุดท้าย วันที่ 3 จะเป็นรอบ semi-finals และ Grand Final ตัดสินว่าใครกันที่จะเป็นทีมที่คว้าเงินรางวัล 8.4 ล้านบาท ไปครอง

กลุ่ม            เดิมพันเป็นผู้ชนะ   กลุ่ม B               เดิมพันเป็นผู้ชนะ

FaZe                  4.70                Cloud9                      25.0

SK Gaming          3.50                Astralis                      3.30

G2 eSports         4.20              Team Liquid                 17.0

Optic Gaming        51.0                 Fnatic                       7.00

เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ เราได้นำเอาราคาค่าน้ำที่เปิดในรูปแบบ outright หรือทายผลผู้ชนะของทั้ง 8 ทีม แม้ว่าการที่ได้เป็นตัวแทนจาก 2 ภูมิภาคจะดูเหมือน ๆ กัน แต่คุณภาพของทีมก็แตกต่างกันไปอย่างเห็นได้ชัด ทีมจากอเมริกาเหนือเป็นภูมิภาคที่ฟอร์มตกลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้พวกเขาเสียเปรียบในรอบรองชนะเลิศที่รายการ ECS Season 3 เนื่องจากการแข่งขันของพวกเขาไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับมาตรฐาน

ที่สำคัญมีแค่ทีมเดียวจากอเมริกาเหนือที่ดูเหมือนว่าจะมีความหวังมากที่สุดคือ SK Gaming ดาวเด่นในปี 2016 ในขณะที่พวกเขายังเพียรพยายามค้นหารูปแบบของพวกเขาในปี 2017 พวกเขาจะมุ่งหน้าไปยังลอนดอนในฐานะผู้ชนะจากรายการ DreamHack Jonkoping เป็นที่น่าสังเกตว่าพวกเขาไม่ใช่แค่ทีมเดียวที่นั่น แต่ยังมี Fnatic อีกทีมดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลับมาทำฟอร์มได้ดีอีกครั้งด้วยฝีมือเจ้าของตำแหน่งรองชนะเลิศจากรายการ Jonkoping และ Olofmeister ได้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบที่ทำให้พวกเขามีผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกในปี 2015

ในขณะเดียวกัน ทีม Astralis ก็เป็นอีกทีมที่มาแรง และอาจจะสามารถชนะการแข่งขันในครั้งนี้ เนื่องจากมีผลงานที่ผ่านมาในช่วงปี 2017 ซึ่งเป็นที่โต้เถียงกันอย่างมากสำหรับความสามารถของพวกเขาที่จะมาโชว์ในรายการที่ลอนดอนครั้งนี้ Astralis จะมุ่งหน้าไปลอนดอนพร้อมกับเงินรางวัลติดมือก้อนใหญ่ในมือหลังจากชนะในรายการ Virtus.Pro ที่แอตแลนตาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขาได้รับเงินรางวัลมูลค่ากว่า 250,000 เหรียญสหรัฐจาก Eleague

งานนนี้ทีม FaZe ก็ต้องมาเจอกับคู่ปปรับอย่าง Astralis ที่ต้องตายในที่สุดในรอบ grand final ที่รายการ SL i-League Season 3 Finals และะเป็นที่แน่นอที่ FaZe ยังคงขาดคุณสมบัติที่จะมารับรองว่าพวกเขาจะสามารถคว้าตำแหน่งแชมป์ได้ในงานนี้ ซึ่งจากปีที่ผ่านมาพวกเขาก็ไม่ได้คว้าตำแหน่งแชมป์จากรายการ international อื่น ๆ มากมายนักถึงแม้ว่าตำแหน่ง runners-up สองครั้งที่ได้มาจะสามารถแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุดในยุโรปก็ตาม

อีกหนึ่ง top ทีมจากยุโรปที่จะเข้าร่วมแข่งขันที่กรุงลอนดอนคือ G2 ผู้เล่นจากฝรั่งเศสที่มีตำแหน่ง back-to-back จากรายการ LAN ล่าสุด หลายครั้งที่พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ และจุดอ่อนในรอบ playoffs แต่อย่างไรก็ตามในรายการ ECS Finals พวกเขาจะได้เจอกับทีมอย่าง Astralis และ FaZe ที่ถูกเซ็ตมาแล้ว ซึ่งก็คงเป็นหายนะของพวกเขา เปรียบเทียบคู่แข่งขันของพวกเขาจาก 2 รายการ DreamHack Tours และ at ESL Pro League Finals ซึ่งคู่แข่งทั้ง 2 ก็มีระดับความสามารถที่อยู่คนละระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทีม SK Gaming

ในอีกฝั่งนึงที่น่าสนใจไม่น้อยคือ 4 ทีมจากอเมริกาเหนือที่จะมาท้าชิงตำแหน่งแชมป์จากฝั่งยุโรป นอกเหนือจากทีม SK Gaming ทีม Team Liquid และ Cloud9 ก็ดูเหมือนว่าอาจจะต้องหนักใจอยู่บ้าง เนื่องจากพวกเขาก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้โดยการเข้าร่วมการแข่งขัน LAN ในปีนี้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นความท้าทายสำหรับการเข้าแข่งขันชิงแชมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาต้องลำบากในการเผชิญหน้ากับทีม Astralis และ Fnatic ในกรุ๊ป B ซึ่งเป็นที่แน่ชัดว่าทีม Astralis เป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุด และ Fnatic ก็โหยหาการกลับมาเป็นแชมป์อีกครั้งหลังจากปี 2015

ทีมที่อ่อนแอที่สุดในรายการนี้ก็น่าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากทีม Optic Gaming ซึ่งยังไม่ฟื้นตัวจากการพ่ายแพ้ใน in-game leader ในขณะที่ Hazed ได้แสดงให้เห็นถึงทักษะแล้วว่าเขายังขาดคุณสมบัติของการเป็นผู้นำ และกลยุทธในการจัดการทีม ที่ Stanislaw ได้เคยเอามาใช้ในทีม และพาทีมคว้าแชมป์มาได้ในอดีต เป็นที่แน่นอนว่าทีม Optic มีความสามารถแต่จนถึงทุกวันนี้พวกเขาก็ยังไม่สามารถดึงมันมาใช้ได้อย่างเต็มที่ และก็เป็นเหตุที่ทำให้พวกเขายังติดแหง็กไม่สามารถขึ้นแท่นได้อีกครั้ง